วันอังคารที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

KURA SUSHI สนุกกับเทคโนโลยีในการบริการในราคาจานละ 100 เยน


ก่อนกลับเมืองไทย พวกเราได้แวะไปพักที่นาริตะ 1 คืน เนื่องจากวันรุ่งขึ้นจะต้องขึ้นเครื่องตั้งแต่เช้า หลังจากเอาสัมภาระที่เริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นเรื่อยๆไปฝากไว้ที่โรงแรมที่จะนอนคืนนี้ซึ่งใกล้สนามบินมากที่สุด จากนั้นเราก็ขึ้นรถไฟฟ้า Keisei จากสนามบินนาริตะ Terminal 1 มาสถานีนาริตะ เพื่อขึ้นรถ Shuttle Bus ของ AEON Mall มาช้อปปิ้งปิดท้ายและเก็บตกก่อนกลับไทยหรือเรียกว่า ละลายเงินเยนรอบแรกก่อนปิดท้ายที่สนามบินเป็นรอบสุดท้าย

เมื่อลงรถไฟฟ้าที่สถานีนาริตะ เดินออกมาก็จะเจอป้ายรถและมีรถของ AEON Mall (นาริตะ) จอดอยู่ เราก็ต่อแถว จ่ายเงินบนรถและมุ่งหน้าสู่อิออนมอลล์



ถึง AEON MALL นาริตะ เรียบร้อย 


หลังจากนั่งรถ Shuttle Bus มาประมาณ 5-10 นาทีจากสถานีรถไฟฟ้านาริตะ มาถึง อิออนมอลล์ เมื่อลงรถ ก็พบกับป้ายที่มีข้อความภาษาไทยประหนึ่งว่าเค้ารู้ว่าเราจะมา "ยินดีต้อนรับสู่อิออนมอลล์ นาริตะ ขอให้สนุกกับการยกเว้นภาษี" นึกในใจสนุกแน่แต่รอแป๊ปนะ ขอไปหาอะไรใส่ปากใส่ท้องก่อน


ตาม Plan เราจะมาหาซูชิร้อยเยนที่ชื่อว่า KURA SUSHI ซึ่งอ่านจากรีวิวของคนไทยด้วยกันนี่แหละ เค้าบอกว่าเดินลัดลานจอดรถของอิออนมอลล์ จากนั้นเดินข้ามถนนไป ร้านจะอยู่ทางขวามือ คำอธิบายพิกัดถูกต้อง และ เป๊ะจริงๆ เดินมาแป๊ปนึงก็ถึงแล้ว


ขอแชะหน้าร้าน

อีกแชะ
จากนั้นก็ลุยเข้าร้านกันเลย เมื่อเข้าไปในร้านพบว่า ร้านนี้ใช้พนักงานน้อยมาก เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีมาผ่อนแรงและลดกำลังการใช้คนนั่นเอง

ภายในร้านพอมีโต๊ะว่าง เนื่องจากเรามาถึงในเวลาที่เลยเที่ยงแล้ว

ที่โต๊ะจะมีแผ่นเบอร์โต๊ะพร้อมแผนผังเลขโต๊ะ รวมถึงเส้นทางการเดินทางของอาหาร
เมื่อมีโต๊ะเป้นสถานที่ทำการเรียบร้อยเราก็เริ่มสำรวจบริเวณโต๊ะและภายในร้านแห่งนี้ บนโต๊ะจะมีเมนูเป็นแผ่นพร้อมภาพอาหาร มีขวดน้ำจิ้ม กระปุกวาซาบิ และขิง กระปุกชาเขียว ก๊อกน้ำร้อนสำหรับชงชาเขียว ทุกอย่างบริการตัวเองหมด ไม่มีพนักงานมาเกี่ยวข้องหรือวุ่นวายกับเราเลย เราต้องวุ่นวายและเรียนรู้กันเอง  ต่อมาก็จะเป็นสายพานที่ทำหน้าที่ลำเลียงซูชิสารพัดชนิดและหลากหลายมาให้เราชื่นชม หยิบ โดยทุกจานจะมีฝาพลาสติกครอบเพื่อไม่ให้ซูชิโดนอากาศและอาจจะแห้งไม่น่ารับประทาน หากสนใจซูชิจานใดเพียงแค่เอามือไปหยิบจาน ฝานั้นจะเด้งตัวขึ้นแล้วก็นำมาวางบนโต๊ะได้เลย


สารพัดน้ำจิ้ม วาซาบิ กระปุกขิง กระปุกที่บรรจุผงชาเขียว ก๊อกน้ำร้อนสำหรับชงชาเขียว

ชงชาเขียวสามารถใส่ตามระดับความเข้มข้นที่ต้องการได้
เราก็เริ่มต้นส่อง ซูชิแต่ละจานที่เดินทางผ่านมา ทุกจานราคา 100 เยน เท่ากันหมด ไม่มีการแบ่งสีจานใดๆทั้งสิ้น และข้อสังเกตคือ เนื้อหรือชนิดของอาหารที่โปะมาบนข้าวมีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่จนแทบจะปิดข้าวทั้งหมด มองไม่เห็นข้าว ซึ่งแตกต่างจากเมืองไทยคือ เห็นข้าวแต่แทบไม่เห็นเนื้อ
























เมื่อเราหยิบไปจนเริ่มเบื่อ ก็เลยเงยหน้าไปกดดูจอเมนูที่อยู่ด้านบนซึ่งมีภาพประกอบ และสามารถเลือกภาษาเป็นภาษาอังกฤษได้ หากซูชิที่เราต้องการจะกินแต่ไม่วนมาสักที เราก็สั่งผ่านเมนูอิเล็กทรอนิกส์ด้านบนได้ ใช้ระบบจิ้ม เลือก และสั่ง เมนูที่สั่งไปก็จะมาเสิร์ฟในสายพานที่อยู่ชั้น 2 ด้านบนสายพานซูชิ เมื่อเมนูที่สั่งพร้อมเสิร์ฟที่หน้าจอจะขึ้นว่า รายการที่สั่งกำลังจะมา พร้อมกับเสียงพูดเป็นภาษาญี่ปุ่น ไม่กี่วินาทีอาหารที่เราสั่งก็จะวิ่งมาจอดตรงหน้าเราและโต๊ะเราพอดี (ไม่ต้องใช้พนักงานเสิร์ฟใดๆ) ลองดูจากคลิปด้านล่าง





รายการเมนูที่สั่งเพิ่ม



หลังจากเริ่มอิ่ม ก็จะส่องซูชิบนสายพานเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้หยิบมาเพิ่ม









ขั้นตอนต่อมาหลังจากทุกคนเริ่มอิ่ม ก็มาสู่ขั้นตอนการเก็บจาน ที่ร้านนี้จะมีโปรโมชั่นคือ เมื่อรับประทานครบ 5 จาน จะได้สิทธิ์ในการลุ้นของรางวัล ซึ่งจะมีเรื่องราวของการ์ตูนปรากฏขึ้นบนจอบอกว่าเราได้รางวัลหรือไม่ได้รางวัล  วิธีการเก็บจานของที่นี่คือ จะมีช่องสำหรับให้ลูกค้าหย่อนจานลงไป โดยช่องนั้นถูกออกแบบมาได้พอดีกับโครงของจาน




ช่องสำหรับหย่อนจานลงไป

หย่อนจานลงไป 

ที่จอจะมีการระบุจำนวนจานที่หย่อนลงไปแล้วในช่อง Plate Count 

การนับจำนวนจานก็เพื่อทำให้แคชเชียร์สามารถตรวจสอบกับลูกค้าได้ว่า ยอดที่รับประทานหรือจำนวนจานที่กินเข้าไปนั้น ตรงกับระบบที่รายงานจำนวนมากหรือไม่ และในทุกๆการหย่อนจานครบ 5 จาน ลูกค้าจะได้รับสิทธิ์ลุ้นของรางวัลจากกล่องพลาสติกที่อยู่เหนือศีรษะของแต่ละโต๊ะ โดยในกล่องนั้นจะบรรจุของรางวัลไว้ในลูกพลาสติกกลมๆ

วันนั้นเราทานกันไปทั้งหมด 30 จาน และราเมนอีก 2 ที่ เราได้ของรางวัล เป็นเหมือนคอลเลคชั่นให้สะสม
กล่องของรางวัลสำหรับให้ลูกค้าได้ลุ้นโชค 


 สำหรับค่าเสียหายมื้อนี้ปิดท้ายที่ตัวเลข 3,942 เยน (ซูชิ 30 จาน + ราเมน อีก 2 รายการ) หรือถ้าอยากคิดเป็นเงินไทยก็ 1,182 บาท ถือว่าราคาไม่แพง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น