วันพุธที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561

Katsukura กับทงคัดสึที่พลาดไม่ได้



อาหารอีกชนิดหนึ่งเมื่อมาญี่ปุ่นที่เราต้องไม่พลาดที่จะลิ้มลองก็คือ ทงคัตสึ วันนี้ (4 กุมภาพันธ์ 61) เรามีเป้าหมายจะไปที่ห้างทาคาชิมายะ (Takashimaya) ด้วย 2 เป้าหมายคือ เป้าหมายที่ 1 ไปเดินช้อปปิ้งที่ Tokyu Hands (โตคิวแฮนด์) เป็นห้างที่มีของน่ารักๆ โดยห้างนี้ระบุว่าเป็น Creative Life Store เราใช้วิธีการเดินมาเรื่อยๆจากโรงแรมและก็มาถึงตึก Time Square ที่มีห้าง Takashimaya ในที่สุด

โฉมหน้าตึก Time Square ที่มีห้าง Takashimaya

ป้ายด้านล่างของตัวอาคารที่แสดงร้านอาหารเพียบ ขึ้นลิฟท์ไปเลย รอไร

เราเริ่มควานหาร้านอาหารเป้าหมายของเราคือ ร้านทงคัตสึ Katsukura ด้านล่างของห้างจะมีป้ายบอกร้านอาหารที่มีเพียบในโซนชั้น 12-14  ร้านที่เราจะไปอยู่ชั้น 14  เพื่อไม่ให้เสียเวลากดลิฟท์ขึ้นไปรวดเดียวเลย จากนั้นตอนช้อปปิ้ง เดินเล่นค่อยเดินลงบันไดเลื่อนจากชั้น 14 ลงมา

เมื่อมาถึงชั้น 14 ก็เดินหาพิกัดร้านเป้าหมาย แล้วก็เจอในที่สุด ร้านนี้มีถิ่นฐานกำเนิดจากเกียวโต

ป้ายหน้าร้านระบุชื่อว่า KATSUKURA มาจากเกียวโต

สิ่งที่เราต้องทำก็คือ นั่งเข้าคิว ทางร้านมีเก้าอี้เรียงรายชิดริมกำแพงเพื่อให้ลูกค้านั่งเข้าแถวกัน เมื่อมีลูกค้ากลุ่มหนึ่งเข้าไปในร้าน ก็จะมีการเลื่อนคิวด้วยการขยับเก้าอี้ไปเรื่อยๆ ทางพนักงานของร้านจะนำเมนูมาให้เราศึกษาก่อนแต่เวลาสั่งอาหารต้องเข้าไปสั่งในร้าน  ช่วงนี้ก็รอคิววนไป

หน้าร้านรอคิววนไป อันนี้ถ่ายภาพตอนกินเสร็จแล้วก็ยังมีคนรอกันอยู่

บริเวณหน้าร้านระหว่างนั่งคอยคิวเข้าใช้บริการ

เมนูอาหารดูเรียกน้ำย่อยไปก่อน
และแล้วก็ถึงคิวของพวกเราที่ได้เข้าไปรับประทานทงคัตสึที่มีผู้คนรีวิวกันในโลกออนไลน์จนเราต้องมากินให้ได้  เมื่อเข้ามาในร้านพนักงานก็พาเรามานั่งในโซนที่เป็นเคาน์เตอร์ ถ้ารอเป็นโต๊ะจะต้องรออีกนาน เนื่องจากเรามาในชั่วโมงที่เป็นเวลาอาหารพอดี

บรรยากาศนั่งกินแบบเคาน์เตอร์

พื้นที่ใช้สอยกว้างพอสมควร นั่งแบบนี้ก็ดีนะ

พนักงานที่ร้านนี้สามารถพูดภาษาอังกฤษได้และรีบมารับรายการอาหารทันที

พนักงานมารับออเดอร์ สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้


ชาเขียวมาเสิร์ฟ (เติมได้ตลอด)  จากนั้นเราก็เริ่มสำรวจอุปกรณ์ต่างๆที่วางอยู่บนโต๊ะ ต้องยอมรับว่า อุปกรณ์เค้าเยอะจริงๆ น้ำจิ้ม น้ำราดก็มีหลากหลายจนราดผิดราดถูกก็ไม่รู้ ไม่เป็นไรคิดซะว่า เบ็ดเสร็จมันก็ลงไปกองรวมกันอยู่ในกระเพาะของเรา

ชาเขียวก็มาเสิร์ฟตามสูตร

อุปกรณ์น้ำจิ้ม น้ำราดสารพัดชนิด นั่งดูแบบ งง งง 

ความสับสนย่อมเกิดขึ้นได้ในกระปุกใส่น้ำจิ้ม น้ำราดเหล่านี้ 

สักพักหนึ่งก็มี "ของเล่น" ให้เราได้สงสัยกันอีก สุดท้ายก็ทราบว่า มันคือ งา ให้เราบดเพื่อจะได้ใส่น้ำจิ้มลงไป ขอย้ำนะครับว่าที่เห็นในภาพด้านล่างไม่ใช่ครกกับสาก ระหว่างที่เรากำลังบดขยี้งาอยู่นั้น เราแอบได้ยินเสียงตำราวกับโขลกน้ำพริก ทางร้านเข้าใจคิดนะ ทำให้เรามีอะไรทำขณะที่รอคอยอาหาร จะได้ไม่รู้สึกว่า รออาหารนาน จังหวะนี้ทุกคนมีความมุ่งมั่นอย่างมากกับการบดขยี้งา


ทางร้านจะให้ถ้วยใส่งาพร้อมที่บดคนละ 1 ชุด ต่างคนต่างบดกันไป

บดขยี้เข้าไประหว่างรออาหาร 



หลังจากบดเรียบร้อยก็นำน้ำจิ้มมาใส่ เพื่อราดหรือกินคู่กับทงคัตสึที่กำลังจะมาเสิร์ฟในอีกไม่กี่นาที

ผลงานการบดงา 
ทงคัตสึก็มาเสิร์ฟเรียบร้อย พร้อมกับข้าวที่มาในภาชนะบรรจุสามารถตักเองได้ตามปริมาณที่ต้องการ ข้าวสามารถเติมได้ตลอด ส่วนหมูเติมไม่ได้นะครับ 

เมนูนี้ก็จำไม่ได้ว่าอะไร




ข้าวจะถูกยกมาให้เป็นหม้อกันเลยทีเดียว เนื่องจากเรามากัน 3 คน

ตักแบ่งมาอย่างพองาม 

อันนี้เครื่องเคียงที่เสิร์ฟมาพร้อมกับทงคัตสึเค้าเรียกอะไรก็ไม่รู้ 
ปิดท้ายด้วยค่าเสียหายที่เกิดขึ้น เบ็ดเสร็จ 5,940 เยน คิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,782 เยน

สิ่งที่เราทำความเข้าใจได้ในใบเสร็จคือ ภาษาอังกฤษ(ชื่อร้าน) กับ ตัวเลขราคา

สำหรับร้านนี้รสชาติทงคัตสึ อร่อยและมีเรื่องราวที่น่าสนใจ มีกิจกรรมให้เราได้ทำก่อนกิน แต่อาจจะต้องรอคิวนิดนึงถ้ามาในช่วงมื้ออาหาร ภายในร้านมีโต๊ะอยู่ไม่มาก ทำให้บรรจุคนเข้าไปในแต่ละรอบการกินได้ไม่มากเท่าไหร่นัก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น