วันศุกร์ที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2561


โรงแรมแอทพิงค์นครเชียงใหม่ : ราคาไม่แรง ลายแทงอาหารเช้าอร่อย

ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ถือโอกาสไปพักผ่อนที่เชียงใหม่ ครั้งนี้ขอเลือกโรงแรม At Pingnakorn Chiangmai (แอทพิงค์นครเชียงใหม่) ตั้งอยู่บนถนนนิมมานเหมินทร์ ซอย 12 มีห้องพัก 6 รูปแบบ จำนวนทั้งหมด 40 กว่าห้อง นอกจากนี้โรงแรม At Pingnakorn ยังมีอีก 2 โลเคชั่น คือ แอทพิงค์นครห้วยแก้ว และแอทพิงค์นครริเวอร์ไซด์


หน้าปากซอยนิมมาน 12 จะมีป้ายบอกว่าในซอยนี้มีอะไรบ้าง บริเวณปากซอยจะมีร้านบราวนี่แสนอร่อย ชื่อว่า Memorize Brownie (แอบนอกเรื่อง บราวนี่ออริจินัลราคาเริ่มต้นที่ 65 บาท บราวนี่ดาร์กชอคโกแลต ราคา 95 บาท สามารถซื้อกลับกรุงเทพฯได้ เอาไปแช่ตู้เย็นที่โรงแรมไว้ก่อน)


ในซอยนี้จะมีโรงแรม Kantary Hill สำหรับโรงแรมแอทพิงค์นครเชียงใหม่ เป้าหมายของเราจะอยู่สุดซอยขวามือ มีที่จอดรถอยู่ใต้อาคารและบริเวณด้านหน้าอีกนิดหน่อย เมื่อเข้ามาโรงแรมนี้จะพบกับของตกแต่ง ตู้โตกมากมายจัดวางอย่างได้สัดส่วนอย่างมีเอกลักษณ์ ไม่มากและไม่น้อยเกินไป เข้ามาแล้วเหมือนมานอนที่บ้าน บรรยากาศคล้ายบ้านของเราเอง 

บริเวณด้านหน้าโรงแรม

ด้านล่างเป็นที่จอดรถสำหรับแขกที่เข้าพักจอดได้ประมาณ 6-8 คัน

บริเวณด้านหน้าโรงแรม ด้านในเป็น Lobby มีพื้นที่ไม่มากนัก

ตู้บริเวณด้านหลังเคาน์เตอร์รีเซปชั่นของโรงแรม

บริเวณ Lobby มีที่นั่งรับรองให้กับลูกค้ารอเช็คอิน

มุมสรงน้ำพระช่วงเทศกาลสงกรานต์

อีกมุมหนึ่งบริเวณชั้น 1 
สำหรับการจองห้องพักครั้งนี้จองผ่าน Agoda พัก 4 วัน 3 คืน รวม 4,900 บาท Room Type ที่จองมาคือ Grand Deluxe ทางโรงแรมอัพเกรดให้เป็น One Bedroom Suite ขนาดห้อง 55 ตารางเมตร อยู่ชั้น 4 ห้อง 401 ใช้เวลาเช็คอินไม่นานก็ขึ้นห้องทันที สำหรับลิฟท์จะอยู่ระหว่างชั้น นั่นหมายความว่าจะต้องเดินบันไดขึ้นไปครึ่งชั้นแล้วขึ้นลิฟท์ และมีเก้าอี้ให้นั่งรอบริเวณหน้าลิฟท์  ลิฟท์อาจจะช้านิดนึงด้วยความเก่าแก่ ภายในลิฟท์มีใบเตยถูกจัดเป็นช่อแขวนไว้ช่วยลดกลิ่นอับภายในลิฟท์แบบธรรมชาติ

เก้าอี้สำหรับนั่งคอย ตั้งอยู่หน้าลิฟท์ของทุกชั้น 

ลิฟท์ยังมีความวิจิตรบรรจงและมีความต๊ะต่อนยอนนิดหน่อย(ช้า)

อีกมุมหนึ่งบริเวณช่วงที่พักครึ่งชั้นใกล้บริเวณจุดรอลิฟท์
ขึ้นมาถึงชั้น 4 ก็เจอชุดรับแขกสำหรับนั่งรอหน้าลิฟท์เหมือนชั้น 1 เราจะต้องเดินลงมาอีกครึ่งชั้น ก็จะถึงชั้น 4 ที่เป็นห้องพัก

บริเวณหน้าลิฟท์ชั้น 4 
เดินลงมาครึ่งชั้นก็ถึงชั้น 4 มีเก้าอี้วางให้เป็นจุดๆ 

ทางเดินหน้าห้องพัก ตกแต่งด้วยภาพวาดของศิลปินตลอดทาง
เราเข้ามาสำรวจห้องพักคืนนี้กัน อย่างที่บอกเราได้อัพเกรดห้องเป็นห้องสวีท 1 ห้องนอน เปิดประตูเข้ามาปั๊ปก็นำคีย์การ์ดเสียบลงไปในช่องเพื่อเปิดระบบไฟฟ้าภายในห้อง สำหรับการเข้าห้องพักยังคงใช้กุญแจไขประตูนะครับ แต่พวงกุญแจจะมีคีย์การ์ดสำหรับเสียบเปิดระบบไฟฟ้าภายในห้อง เมื่อเปิดประตูเดินเข้ามาฝั่งซ้ายจะเป็นโซนประกอบอาหารได้ มีไมโครเวฟ ซิงก์ล้างจาน กาต้มน้ำ ชากาแฟ และภายในตู้ด้านล่างที่เป็นซี่ (ดูภาพด้านล่าง) เป็นตู้เย็นขนาดเล็กที่มีน้ำอัดลมกระป๋องและเบียร์จำนวนหนึ่ง (เสียตังเพิ่มตามปริมาณที่ดื่มไปนะครับ)

บริเวณสำหรับทำอาหารแบบเบาๆ 
หันไปทางซ้ายก็จะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารและเก้าอี้ 2 ตัวถูกจัดวางไว้อย่างเรียบหรูดูดี กลับหลังหันมาก็จะเป็นโซนของห้องนั่งเล่น มีชุดรับแขกที่ปูด้วยหินอ่อน นั่งลงไปอาจจะแข็งๆและเย็นนิดนึง ฝั่งตรงข้ามก็มีทีวี 1 เครื่อง ในห้องนี้จะมีแอร์ 1 ตัว แยกกับห้องนอนที่มีอีก 1 ตัว

โตีะและเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหาร

บริเวณห้องนั่งเล่นดูทีวีเปิดไฟส่องสว่างเรียบร้อย

เดินต่อเข้ามาในห้องนอนก็มีที่วางกระเป๋า

เข้ามาถึงโซนห้องนอนก็เจอกับเตียงใหญ่ ฐานของเตียงเป็นการก่อเป็นปูนขึ้นมาเลยและเอาฟูกมาวาง งานนี้ไม่ต้องเปลี่ยนเตียงบ่อย เพราะแข็งแรงทนทานแน่ๆ ภายในห้องนอนก็จะมีโต๊ะเครื่องแป้งแบบโบราณ (แม้ว่าจะดูโบราณคลาสสิคแต่ไม่มีผีนะครับ) ปลายเตียงมีทีวีอีก 1 เครื่องพร้อมเครื่องเล่นดีวีดี แต่ยุคนี้อาจจะไม่ได้ใช้แล้ว

เตียงนอนแบบเตียงเดี่ยว

อีกมุมหนึ่งภายในห้องนอน ด้านนอกจะเป็นระเบียง

โต๊ะเครื่องแป้งดูโบราณดี 

มีป้ายสำหรับแขวนบอกพนักงานว่าให้ทำความสะอาดห้อง

อีกป้ายสำหรับบอกว่า อย่ารบกวนต้องการความเป็นส่วนตัว

ในส่วนของห้องน้ำ จะมีประตูเปิดได้จาก 2 ฝั่ง ประตูแรกเปิดจากฝั่งห้องนอน และอีกประตูเปิดจากฝั่งห้องนั่งเล่น ภายในห้องน้ำมีอ่างอาบน้ำ ห้องสำหรับ Shower ภายในห้องน้ำมีพื้นที่กว้างมาก สามารถเปิดหน้าต่างชมวิวภายนอกได้ สำหรับแชมพูและสบู่จะใส่ขวดแบบปั๊มไว้วางไว้ 2 จุดคือ อ่างอาบน้ำ และ ห้องอาบน้ำ สามารถปั๊มใช้ได้ตามปริมาณที่ต้องการ

ห้องน้ำค่อนข้างใหญ่กว้างขวางมาก 
โดยรวมสำหรับห้องพัก ไม่เก่าและไม่ใหม่ซะทีเดียว สามารถพักผ่อนได้อย่างสบายภายใต้งบประมาณไม่สูงมากนัก ส่วนนอนหลับหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับพื้นฐานการนอนของแต่ละคนว่าหลับง่ายหรือหลับยาก เพราะข้างๆโรงแรมเป็นสถานบันเทิงที่ชื่อว่า Warm up (ถ้านอนไม่หลับแนะนำให้ไปใช้บริการที่ Warm Up เลย หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง) และช่วงหัวค่ำอาจจะมีเสียงเครื่องบินโฉบเฉี่ยวไปมาพอสมควร

โรงแรมนี้ก็รับทัวร์จีนด้วย อาจขาดความสงบบ้างบางช่วง เช่น ตอนเช้าระหว่างการรับประทานอาหารเช้า ทัวร์จีนมักจะรีบออกไปท่องเที่ยวตั้งแต่เช้า และกลับมาช่วงกลางคืนที่อาจได้ยินเสียงบ้างเล็กน้อย แต่สำหรับเราแล้วไม่ใช่อุปสรรคเพราะโดยรวมของโรงแรมดีงาม

มาถึงเวลาของอาหารเช้า โรงแรมนี้ค่าห้องน่าจะรวมอาหารเช้าไว้อยู่แล้ว และบริการเฉพาะลูกค้าโรงแรมเท่านั้น ไม่รับลูกค้าขาจรข้างนอก อาหารเช้าน่าจะพร้อมประมาณ 07.00 น. เพราะมีบางวันลงไปเร็วแต่ห้องอาหารยังปิดไฟอยู่  ช่วงที่ไปใช้บริการมีน้องๆนักศึกษามาฝึกงานหลายคนเลย บางคนก็พูดภาษาจีนได้ด้วยสามารถสื่อสารกับคนจีนได้อย่างสบายมาก  ชอบไถลออกนอกเรื่อง เอาล่ะตามมาดูอาหารเช้ากันเลยครับ

เท่าที่ทราบข้อมูลจากรีวิวต่างๆคือ อาหารเช้าของที่นี่จะมีอาหารเหนือเป็นอาหารเช้าด้วย ลองไปชมกันเลยครับ  ห้องอาหารเช้าจะตั้งอยู่ชั้น 1 ติดกับส่วนของล๊อบบี้หาไม่ยากครับเพราะโรงแรมเล็ก ห้องอาหารจะมีทั้งด้านนอกสัมผัสกับอากาศยามเช้าและด้านในเลือกนั่งได้ตามอัธยาศัย มีแอร์แต่ไม่เปิดเพราะอากาศไม่ร้อนเลยครับช่วงเช้า การตกแต่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับโรงแรม มีของตกแต่ง ของโชว์ให้ตื่นตาตื่นใจพอสมควร


บริเวณด้านในของห้องอาหาร

บริเวณด้านนอกของห้องอาหาร เป็นโซนด้านหน้าโรงแรม

อีกมุมหนึ่งบริเวณด้านนอก นั่งท่ามกลางธรรมชาติ

โต๊ะประจำตลอดการพักที่นี่

ของตกแต่ง เมื่อโคมไฟกับตาชั่งมารวมกันก็ได้อย่างที่เห็น
เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เรามาดูอาหารกันเลย อาหารที่นี่ถือว่าหลากหลายมาก ไม่แพ้โรงแรมใหญ่ๆ เลยมีทั้งมุมสลัด จัดเรียงอย่างพิถีพิถันสวยงาม ไข่ดาวที่ทำไว้พร้อมหยิบได้เลย หมูแฮม เบค่อน ไส้กรอก รวมถึงมุมอาหารเหนือ ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง  และผัดสารพัดผักสารพัดชนิด และบางวันก็มีข้าวซอยไก่

มุมสลัดและเพื่อสุขภาพ

หมูปิ้งของเด็ดของที่นี่ ถ้ามาช้าอาจหมดได้

อาหารเหนือแต่เช้า น้ำพริกหนุ่ม อ่อง และไส้อั่ว



แคปหมู
แคปหมูจัดเรียงอยู่ในขวดโหล และข้าวเหนียวอุ่นๆ ห่อด้วยใบตอง

รวมมิตรอาหารเหนือ

เส้นข้าวซอย

ส่วนประกอบของข้าวซอย

การเข้าพักวันที่สอง มีข้าวซอยไก่ด้วย หยิบเครื่องเองตามอัธยาศัย 







ข้าวผัด

ไก่ทอด
ไข่ดาวสำหรับคนที่ต้องการ American Breakfast

แฮม ไส้กรอก เบค่อน มาครบชุด
มุมข้าวต้ม

แขกของโรงแรมเริ่มลงมารับประทานอาหารเช้ากันแล้ว
นอกจากนี้ยังมีมุมแซนวิช เครื่องดื่มร้อนที่สามารถเลือกชงเองได้ตามสบาย อยากเข้มอยากอ่อนแค่ไหน มีโอวัลติน โกโก้ กาแฟ ชาดำเย็น น้ำส้ม
แซนวิช

มุมกาแฟ โอวัลติน ชา โกโก้

ขนมไทยๆ วุ้น ขนมชั้น จัดวางเป็นถ้วยๆ เพื่อความสะดวกในการหยิบฉวย

มุมเครื่องดื่มร้อน ชงเครื่องหรือชงเองก็ได้

งานคอนเฟลคกับนม ขนมปังก็มา

ชาดำเย็นและน้ำส้ม มีน้ำแข็งบริการด้วยถ้าต้องการความเย็นของเครื่องดื่ม

น้ำเปล่า
มุมผลไม้เหลืองแดง สับปะรดแตงโมก็มา 

ความวิจิตรบรรจงของคนจัดสับปะรด

มุมผลไม้ 
โดยรวมสำหรับอาหารเช้าแล้ว อร่อย หลากหลาย และรับรองว่าการมาเชียงใหม่ (ภาคเหนือ) คุณได้รับประทานอาหารเหนือที่นี่อย่างแน่นอนแถมอร่อยด้วยครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม 
โรงแรมแอทพิงค์นครเชียงใหม่ นิมมาน 12 มีห้องพัก 6 Room Type ดังนี้ครับ
1.Superior (เตียงคู่)  ขนาดห้อง 30 ตารางเมตร จำนวน 6 ห้อง
2.Superior (เตียงเดี่ยว) ขนาดห้อง 30 ตารางเมตร จำนวน 12 ห้อง
3.Deluxe ขนาดห้อง 35 ตารางเมตร จำนวน 6 ห้อง
4.Grand Deluxe ขนาดห้อง 40 ตารางเมตร จำนวน 6 ห้อง
5.One Bedroom Suite ขนาดห้อง 55 ตารางเมตร จำนวน 10 ห้อง
6.Two Bedroom Suite ขนาดห้อง 60 ตารางเมตร จำนวน 4 ห้อง

เว็บไซต์โรงแรม http://www.atpingnakorn.com/  ในเว็บไซต์จะมีเบอร์โทรติดต่อของโรงแรมแต่ละโลเคชั่นครับ

เป็นการรีวิวในฐานะผู้เข้าพักที่ไปใช้บริการจริง ไม่ใช่การรับจ้างรีวิวนะครับ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น